วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558

พระคเณศปางเด็ก

บทความโดย กิตติ วัฒนะมหาตม์





พระคเณศปางเด็ก หรือ พระพาลคเณศ (Bala Ganesh) เป็นปางหนึ่งของพระคเณศ ที่ได้รับความนิยมบูชากันในเมืองไทยอย่างเห็นได้ชัดในขณะนี้

ดังปรากฏว่าสำนักต่างๆ (โดยเฉพาะสายมนต์ดำ) ได้สร้างพระคเณศในรูปแบบของเด็กน้อยอ้วนพีน่ารัก สีสันสวยงามออกสู่ท้องตลาด เป็นอันมากยิ่งกว่ายุคใดๆ

บรรดาช่างฝีมือ ก็ออกแบบพระยุวคเณศให้คนที่ชื่นชอบทางนี้ได้บูชา หรือสะสมกัน ด้วยความคิดและฝีมือ ที่แม้แต่ผม (ซึ่งไม่มีความสนใจทางนี้เลย) ก็ยังต้องยอมรับว่า เหนือกว่าช่างอินเดียและช่างจีนมากนัก

เหตุผลที่คนชอบพระคเณศปางนี้นั้น วิเคราะห์ได้ไม่ยากหรอกครับ 

ผู้บูชาเทพส่วนหนึ่งในสังคมไทยปัจจุบัน คือคนที่ชื่นชอบคลั่งไคล้เด็กจนถึงขั้นดราม่า เห็นอะไรเป็นเด็กก็ว่าน่ารักไปหมดทั้งนั้น

คนพวกนี้เชื่อว่า บูชาพระคเณศปางเด็กน่ารักแล้ว จะทำให้ได้รับพรในด้านของความอ่อนเยาว์ ความร่าเริงแจ่มใส และความมีชีวิตชีวา 

บางคนคาดหวังถึงการปกป้องคุ้มครองเด็กเล็กในบ้าน บางคนเอาความเชื่อจีนมาปนว่า เด็ก (โดยเฉพาะเด็กชาย) เป็นบ่อเกิดของสิริมงคลและโชคลาภทุกอย่าง

และเป็นเช่นเดียวกับคนที่ชื่นชอบกุมารทอง ซึ่งพูดตรงๆ ก็คือ เครื่องรางสายพราย ที่มีอัตราการเจริญเติบโตในท้องตลาดเครื่องรางของขลังเมืองไทยอันดับหนึ่งในขณะนี้

อีกทั้งยังเป็นที่ปรากฏแล้วนะครับว่า พระพาลคเณศส่วนหนึ่งถูกสร้างมาให้บูชาในรูปแบบกุมารทอง หรือบูชาแทนกุมารทอง 

โดยมีเหตุผลที่อ้างกันข้างๆ คูๆ ว่า บูชาแล้วจะได้ผลคล้ายกับกุมารทอง แต่ดีกว่า เพราะเป็นเทพ ไม่มีอาถรรพณ์หรือเข้าตัวแบบกุมารทอง อะไรทำนองนั้น

แต่สิ่งเหล่านั้นไม่เป็นความจริงครับ

ผมเคยเห็นสำนักหนึ่ง สร้างกุมารทองในรูปแบบพระคเณศวัยเด็ก มวลสารและพิธีกรรมก็ไม่แตกต่างกับกุมารทองทั่วไป 

เช่นนี้แล้วจะบอกว่า ไม่มีผลร้ายอย่างการบูชากุมารทองได้อย่างไร? 

การเปลี่ยนรูปแบบนิดๆ หน่อยๆ ไม่ทำให้ความวิบัติฉิบหาย ที่พึงได้จากการบูชากุมารทองนั้น แตกต่างกันนักหรอก

แล้วถ้าไม่เกี่ยวกับมวลสาร-ผงภูตน้ำมันพรายอะไรล่ะ

แล้วถ้าเป็นประติมากรรมที่ผ่านการเทวาภิเษกอย่างถูกต้องล่ะ?

คำตอบคือ พระพาลคเณศ ที่ผ่านการเทวาภิเษกอย่างถูกต้อง ให้สามารถบูชาเพื่อรับพร เช่น ความอ่อนเยาว์ ความร่าเริงแจ่มใส และความมีชีวิตชีวานั้น "ไม่มีในโลก"

เพราะว่า พระคเณศก็เป็นเช่นเดียวกับเทพเจ้าทั้งหลาย พระองค์ไม่มีวัยเด็กครับ

ที่เห็นว่าในอินเดียมีคติการบูชาพระพาลคเณศ มีรูปวาดของท่านในวัยเด็กรวมอยู่ในครอบครัวพระศิวะ หรือกำลังเล่นกับพระกฤษณะ ฯลฯ 

นั่นเป็นผลที่เกิดมาจากเทพนิยาย และความคลั่งเด็กของคนอินเดียล้วนๆ




แม้จะมีเทพนิยายบางส่วน ที่ยึดโยงกับเทวสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งใดแห่งหนึ่ง เล่าว่า ทรงจำแลงพระวรกายเป็นเด็กน้อยบ้าง แต่ก็ยังคงเป็นเทพนิยาย 

และถึงแม้ว่า เทพนิยายดังกล่าว อาจจะ มาจากเหตุการณ์จริงอยู่บ้าง ก็เป็นเรื่องชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ใช่ "ทิพยภาวะ" ที่เป็นแก่นสารของพระองค์

และเด็กก็ไม่สามารถเป็นเทพเจ้าได้ด้วยประการทั้งปวงครับ

ด้วยเหตุที่ว่า เทพเจ้าทั้งหลายล้วนเกิดจากการเลื่อนชั้นทางวิญญาณของบุคคล 

ซึ่งในชั้นเดิมที่สุด คือคนที่ได้รับการยอมรับนับถือจากมหาชน และสิ้นชีวิต หลังผ่านประสบการณ์วัยผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์แล้ว 

ไม่ใช่ตายตั้งแต่ยังเด็ก

ถ้าใครคิดว่า เด็กเล็กๆ สามารถกลายเป็นเทพชั้นสูงได้ นั่นเป็นความคิดที่ออกนอกหลักศาสนาพุทธ 

ออกนอกหลักของเหตุผล ไม่มีที่มาที่ไป นอกจากไปยึดโยงเอาเรื่องผีมาปะปน 

ผีเด็กตายทั้งกลมบ้าง ผีเด็กตายตอนคลอดบ้าง ผีเด็กทำแท้งบ้าง ผีลูกกรอกบ้าง

หรือไม่ก็ไปเอากุมารทองมาปนกับเทพ

ก็เหมือนที่หลอกกันให้สังคมงมงายกันอยู่กรณีหนึ่งละครับ 

คือที่พูดกันว่า กุมารทองมีทั้งสายเทพ สายพราย สายเทพคือเป็นเทวดามาจุติ ที่จริงก็คือโกหกกันทั้งเพ

เทพไม่มีวัยเด็ก ถ้าเป็นอทิสสมานกายที่มีรูปลักษณ์ของเด็ก นั่นคือผีเท่านั้นครับ

กลับมาเรื่องของพระพาลคเณศ

เมื่อพระคเณศองค์จริงไม่มีวัยเด็ก ก็ไม่มีใครสามารถบูชาพระองค์ เพื่อให้ได้ผลอะไรแบบเด็กๆ ได้

เพราะเหตุนั้น การเทวาภิเษกประติมากรรมของพระองค์ที่ทำเป็นรูปเด็ก จึงทำได้อย่างมากแค่เป็นการป้องกัน ไม่ให้ผีเด็กเร่ร่อนเข้าไปสิงสู่เท่านั้น




นอกจากนั้นแล้ว จะทำให้เกิดผลใดๆ เช่นว่ามา ล้วนแต่เป็นความเพ้อฝัน ไม่ต่างไปจากการเล่นตุ๊กตาตัวหนึ่ง

ถ้าใครจะเถียงว่า ถ้าเช่นนั้นคนอินเดียก็คงเข้าใจผิดกันมานาน หลายร้อยหลายพันปี ถึงได้มีการทำเทวรูปพระพาลคเณศมาตั้งแต่โบราณ

ผมก็จะตอบว่า หลักฐานทางเทววิทยาอินเดียที่กล่าวถึงพระพาลคเณศ มีอายุเก่าสุดเพียงแค่พุทธศตวรรษที่ ๒๓ (คือสมัยอยุธยาตอนปลายต่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์) 

และประติมากรรมพระพาลคเณศ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันในศิลปะอินเดีย ก็มีอายุเก่าสุดไม่เกินสองร้อยปีนี้เอง

ทั้งยังเป็นไปได้ว่า ความนิยมในการบูชาพระพาลคเณศของคนอินเดีย ที่เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ยุคไม่กี่สิบปีมาแล้วจนปัจจุบันนี้ 

อาจได้รับอิทธิพลอย่างมากจากศาสนาคริสต์ ซึ่งแพร่หลายทั่วไปในยุคอังกฤษปกครองอินเดีย ที่มีจุดขายหนึ่งคือพระกุมารเยซู

รวมทั้งจากวัฒนธรรมอินเดียรุ่นใหม่ ที่คลั่งไคล้เด็กอย่างออกหน้าออกตาที่สุดวัฒนธรรมหนึ่งในโลกนี้ (ซึ่งก็น่าจะเลียนแบบฝรั่งอีก) 

โดยมีเทพที่นำร่องเป็นตัวอย่างอยู่ก่อนแล้วก็คือ พระกฤษณะ ซึ่งเรื่องราวความซนในวัยเด็กของพระองค์เป็นที่ชื่นชอบกันมานานแล้ว

ผมเป็นคนหนึ่งที่บูชาเทพอินเดีย จึงไม่ดูถูกสติปัญญาของคนอินเดีย

แต่ผมให้ความสำคัญกับองค์ความรู้ของคนอินเดียโบราณ 

และ...ระมัดระวังเสมอ กับภูมิปัญญาของคนอินเดียรุ่นใหม่ ซึ่งวุ่นวายโกลาหลกันจริงๆ ในกลียุคเช่นนี้ครับ 

4 ความคิดเห็น:

  1. "เทพไม่มีวัยเด็ก ถ้าเป็นอทิสสมานกายที่มีรูปลักษณ์ของเด็ก นั่นคือผีเท่านั้นครับ" : คนรักเทพเด็กๆ อ่านแล้วสะดุ้งเฮือกกกก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าสะดุ้งแล้วคิดได้ก็ดีซิคะ

      ลบ
  2. บางคนเค้าเอาลูกไปเปรียบเทียบกับองค์เทพเพื่อให้ตัวเค้าได้เป็นแม่ของเทพรึเปล่าคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เชื่อว่าในใจลึกๆ ของหลายๆ คนที่ทำอย่างงั้นก็คือตามที่คุณเปียเมนต์ละค่ะ แต่ถ้าเป็นคนอินเดียส่วนใหญ่เค้าจะแบบว่า...นับถือองค์เทพในลักษณะที่องค์เทพทรงเป็นทุกอย่างในชีวิต แล้วเค้าก็จะถือว่าเป็นมงคลมากค่ะที่ได้ทำอะไรในรูปแบบที่เหมือนองค์เทพ

      ลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น