วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559

บูชาเทพด้วยเทวตานุสสติ

บทความโดย กิตติ วัฒนะมหาตม์





ใน Facebook ผมคุยกับหลายๆ ท่านอยู่เสมอนะครับ เรื่องของการนับถือองค์เทพอินเดียด้วยหลักพุทธ คือ "เทวตานุสสติ"

หลักเทวตานุสสติ อธิบายอย่างย่อที่สุดเลยนะครับ คือให้เคารพนับถือที่คุณงามความดีขององค์เทพนั้นๆ แล้วเอามาเป็นขวัญกำลังใจในการใช้ชีวิต

แต่คนไทยรู้จัก และนับถือเทพเจ้าอินเดียจากคุณวิเศษ

อีกทั้งคุ้นเคยกับการบูชาแบบฮินดู คืออ้อนวอนร้องขอ แล้วก็รอคอย คาดหวัง ว่าองค์เทพจะทรงตอบรับคำอธิษฐาน

หรือถ้าไม่ได้ผล ก็ต้องทำใจกันเท่านั้นเองครับ

ส่วนคุณงามความดีขององค์เทพ ส่วนใหญ่เรารู้จักผ่านทางเทพนิยาย ซึ่งก็ไม่ค่อยเน้นกันเท่าไหร่

แถมผมเองนี่ละครับ ยังชอบมาประกาศปาวๆ ว่าเทพนิยายมันเป็น เครื่องมือ ในการรวมลัทธิความเชื่อ เป็นเรื่องที่ควรรู้ แต่ไม่ควรหลงเชื่อว่าเป็นความจริงไปเสียทั้งหมด

เมื่อเป็นเช่นนี้ การที่จะให้เปลี่ยนมานับถือเทพเจ้าเหล่านี้ ด้วยหลักเทวตานุสสติ จึงไม่ง่าย สำหรับคนไทยทั่วไป ที่มิได้ถูกฝึกฝนอบรมให้คุ้นเคยกับการพินิจ พิเคราะห์ พิจารณ์

ยกตัวอย่างเช่น พระคเณศ




เทพยอดนิยมองค์นี้ละครับ ถ้าพูดกันเรื่องเทวตานุสสติ หลายคนก็จะตั้งคำถามกับผมว่า แล้วเราควรจะนับถือพระองค์อย่างไร?

พูดง่ายๆ คือ ถ้าแค่เอามาเป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต อันนี้ส่วนมากพอนึกภาพออกครับ

แต่ถ้าจะให้นับถือในระดับที่ลึกซึ้ง จริงจังกว่านั้น แล้วไม่คลาดเคลื่อนจากหลักพุทธด้วย หลายคนจะเริ่มนึกไม่ออก เชื่อมโยงไม่ได้

ซึ่งกรณีของพระคเณศ ผมมักตอบอย่างนี้ครับ :

๑. สำหรับคนที่ชอบเทวปกรณ์ เทพนิยาย ปุราณะต่างๆ ก็ลองสังเกตดูสิครับ ว่าเรื่องคุณงามความดีของพระคเณศในตำนานเหล่านั้น มีอะไรบ้าง

จากนั้น คุณก็เอาคุณงามความดีเหล่านั้นมาเป็นเยี่ยงอย่าง ทำตัวให้เหมือนพระคเณศ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความกตัญญู การใช้สติปัญญา-ไหวพริบ ซึ่งมีอยู่ในเทพนิยายทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ละครับ

๒. พระคเณศเป็นเทพแห่งอุปสรรคและความสำเร็จ

คนที่นับถือท่านก็ต้องมั่นใจนะครับ ว่า...ถึงเวลาที่ชีวิตมีอุปสรรค เกิดวิกฤติการณ์ เรามีเทพแห่งอุปสรรคและความสำเร็จคอยคุ้มครอง




เพราะฉะนั้น เราไม่ได้อยู่คนเดียว หรือต้องฟันฝ่าอุปสรรคตามลำพังนะครับ เรามีท่านคอยช่วยสนับสนุน ช่วยพาเราผ่านพ้นอุปสรรคทั้งปวง

จากนั้นเราต้องมุ่งสร้างกำลังใจ ต่อสู้ เอาชนะอุปสรรคที่เกิดขึ้นครับ

เราต้องคิดว่า เรามีบารมีแห่งองค์พระคเณศคอยปกปักรักษา ดังนั้น เราจึงไม่ได้ก้มหน้าก้มตาฟันฝ่าไป โดยไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่รอด

เรารอดชัวร์ครับ แต่เราต้องทำให้เต็มที่

นี่ละครับหลักคิดแบบพุทธ เอาเทวดาเป็นเครื่องเสริมกำลังใจ แล้วทำให้เต็มที่

ความขัดข้องทั้งหลายจะผ่านพ้น แล้วความสำเร็จจะตามมาแน่นอน

ไม่ใช่นับถือองค์เทพแห่งความสำเร็จ แล้วพอเกิดอุปสรรคก็นอนงอมืองอเท้า รอองค์เทพมาโปรดอย่างเดียว

แบบนั้นไม่ใช่พุทธครับ ไม่ใช่วิธีบูชาเทพที่ถูกต้อง

ยกตัวอย่างอีกสักกรณีหนึ่งนะครับ คือ พระแม่ลักษมี




เทพนารีองค์นี้ ท่านประทานพรในเรื่องของความสวยงาม ความรัก โชคดี ความร่ำรวย ความมั่งมีศรีสุข และสิริมงคล ใช่มั้ยครับ?

ซึ่งถ้าใครวิเคราะห์เป็นนะครับ จะเห็นว่า พรทุกอย่างที่ผมบรรยายมาทั้งหมดนี้น่ะ มันเป็นเรื่องเดียวกันหมดเลย

๑. เมื่อรู้ว่าท่านประทานพรเรื่องความสวยงาม เสน่ห์ เมตตามหานิยม แต่ถ้าความจริงคือ คุณเป็นคนไม่สวย หน้าตาจืดชืด ทำไงล่ะครับ?

คุณก็อธิษฐาน เอาท่านเป็นกำลังใจในการ ปรับเปลี่ยนชีวิต ของคุณใหม่สิครับ

ถ้าหากว่า รูปโฉมคุณในชาติภพปัจจุบัน ไม่มีความสวยงามอะไรเลย เพราะวิบากกรรมมันส่งผลให้เป็นอย่างนั้น ไม่เป็นไรครับ

สวยภายนอก คุณจะแก้ด้วยศัลยกรรมก็ได้ แต่คุณต้องเสียเงิน ต้องเจ็บตัว ทำแล้วต้องไปผ่าซ่อมทุกปี ยิ่งแก่ตัวยิ่งซ่อมแพง 

แถมยังต้องกินยาต่อเนื่อง จนสมองเพี้ยน เอ๋อๆ เหวอๆ ในที่สุดตับไตไส้พุงพังป่นปี้หมด ด้วยฤทธิ์สารเคมีสารพัดอย่าง ที่คุณฉีดและกินเข้าไป

ตามมาด้วยโรคร้าย ที่หมอเขาไม่บอกคุณหรอกครับว่า มันเป็นผลจากศัลยกรรม และยาที่เข้าไปเปลี่ยนระบบของร่างกายคุณ

เพราะฉะนั้น คุณเน้นการแก้ไขจากภายในแทนดีกว่ามั้ยครับ?

คนเราถ้าสวยมาจากข้างใน มันจะมีรัศมี หรือ aura ที่ทำให้เกิดเสน่ห์ เมตตามหานิยมออกมาภายนอกเองละครับ ซึ่งก็เป็นเรื่องเดียวกับ สิริมงคล นั่นเอง

ดังเราจะเห็นว่า หลายคนที่หน้าตาธรรมดาๆ หรือบางคนเรียกได้ว่า ค่อนข้างน่าเกลียดด้วยซ้ำไป แต่ทำไมเมื่อมองเขา พูดคุยกับเขา อยู่ใกล้ชิดเขา แล้วรู้สึกดี ก็เพราะ aura ที่ออกมาจากข้างในนี่ละครับ

แล้วจะทำยังไงให้สวยมาจากข้างในล่ะ?

ถ้าคุณนับถือพระลักษมี คุณก็ต้องอัญเชิญพระแม่ลักษมีมาสถิตอยู่ในกลางใจ อธิษฐานขอการปกปักรักษาจากท่าน

แล้วดูแลจิตใจ ให้มีความสุข มีความพอใจกับสิ่งดีงามที่อยู่รอบตัว

ยึดมั่นในศีล ๕ ให้เป็นแนวทางปฏิบัติทุกวัน

ยึดมั่นในพรหมวิหาร ๔ ให้เป็นแนวทางตอบสนองต่อบุคคล และสถานการณ์ต่างๆ 

ไม่เครียด ไม่อวดดื้อถือดี ไม่หมกมุ่น ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว สนใจแต่เฉพาะเรื่องดีงาม เรื่องที่จรรโลงใจ เรื่องบุญกุศล หรือเรื่องที่จะทำอะไรที่ดีๆ เพื่อตัวคุณเองและผู้อื่น

ส่วนร่างกาย มันจะไม่สวยงามก็ไม่เป็นไร คุณแค่เอาใจใส่เรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัว ให้ดูดีเหมาะสม ตามรูปร่างหน้าตาของคุณ

ดูแลการกินอยู่ ขับถ่าย หลับนอน ให้สุขภาพดี พยายามกินอาหารที่เป็นธรรมชาติให้มาก กินอาหารอุตสาหกรรม หรืออาหารใส่สารเคมีให้น้อย

ออกกำลังกาย ในรูปแบบที่ได้ผลทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสมอง เช่น โยคะ หรือ ไท้เก็ก (ซึ่งเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของบ้านเรา ไม่ใช่ออกกำลังกายแบบฝรั่ง หรือฟิตเนส)




คุณทำสิ่งเหล่านี้ให้ได้เถอะครับ แล้วคุณจะเห็นเลยว่า พลังเมตตามหานิยมเกิดขึ้นกับคุณแล้ว

๒. ทีนี้ พอตัวคุณเองสวยออกมาจากข้างใน ผู้คนรู้สึกว่า อยู่ใกล้ชิดคุณแล้วมีความสุข ไว้ใจได้ เชื่อใจได้ว่าคุณจะไม่เป็นอันตรายกับเขา

แล้วอะไรมันจะเกิดตามมาครับ?

คำตอบคือ โชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง ความมั่งมีศรีสุข หรือแม้แต่ความสำเร็จในเรื่องความรักและครอบครัว

มันจะทยอยตามกันมาเองละครับ

ก็นี่ไงครับ เอาเทพมาเป็นขวัญกำลังใจ ในการปรับเปลี่ยนชีวิตตนเอง

โดยที่คุณจะต้องมั่นใจว่า คุณมีพระแม่ลักษมีอยู่กับคุณนะ ท่านเป็นเทวีผู้ทรงอานุภาพ ประทานสิ่งที่ดีงาม คุณบูชาท่านจริง และคุณตั้งใจจริงที่จะทำในทุกสิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น แม้ว่ามันจะยาก

คิดให้ได้อย่างนี้ครับ แล้วลงมือทำ ทำเต็มที่เพราะคุณมั่นใจว่ามีท่านคอยคุ้มครองดูแล

แล้วคุณจะเห็นผล ยิ่งมุ่งมั่นทำจริง ยิ่งเห็นผลเร็วครับ

เพราะความสำเร็จที่เกิดขึ้น มันไม่ได้เป็นผลมาจากเฉพาะการกระทำของคุณเท่านั้น มันยังมาจากเทวานุภาพของท่าน ที่ตอบรับพลังจิตของคุณที่มุ่งมั่นจะทำอย่างถึงที่สุดเพื่อตัวคุณเอง ภายใต้พระบารมีของท่าน




ก็เมื่อคุณดูแลร่างกายและจิตใจของคุณให้ดี พลังจิตของคุณจะดี จะแข็งแรง ตั้งสมาธินึกถึงองค์ท่าน ก็จะมีพลังเพียงพอที่จะส่งตรงให้ท่านได้รับรู้

แล้วท่านก็จะได้ประทานโอกาส ประทานหนทางที่ถูกต้อง และช่วยขจัดอุปสรรคที่คุณจะต้องพบเจอ เพื่อให้คุณประสบผลสำเร็จครับ

คนที่บูชาเทพแห่งความงาม แล้วไม่ทำให้ตัวเองงามจากภายใน

บูชาเทพแห่งความรัก แล้วไม่พยายามทำตัวให้น่ารัก

บูชาเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ แต่ไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ไม่พยายามเพิ่มพูนในสิ่งที่ตนขาด ด้วยวิธีที่ถูกต้อง

เอาแต่นั่งๆ นอนๆ รอโชคลาภวาสนา จะมีพลังจิตอะไรส่งคำอธิษฐานไปถึงองค์เทพครับ?

และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง เป็นสุดยอดเคล็ดลับเลยครับ

คือเมื่อบูชาเทพแบบเทวตานุสสติแล้ว ต้องรู้จักทำบุญถวายเทพที่คุณนับถืออยู่ด้วย

เรื่องนี้ ผมเขียนไว้ในหนังสือ คู่มือบูชาเทพ แล้ว ไปหาอ่านกันดูนะครับ





นี่แหละครับ เราเป็นชาวพุทธ บูชาเทพแบบไม่ออกนอกหลักพุทธ และองค์เทพก็โปรดปรานด้วย


..........................



หมายเหตุ : เนื้อหาในบทความนี้ มีลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้อ้างอิงที่ใด ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด จะต้องระบุ URL ของแต่ละบทความด้วย และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด

4 ความคิดเห็น:

  1. ก็ยากนะคะเพราะคนที่บูชาเทพส่วนใหญ่ก็ต้องการให้เทพมาช่วย ไม่ใช่ช่วยตัวเอง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่ค่ะ เป็นการบูชาเพื่ออ้อนวอนร้องขออย่างเดียว ซึ่งไม่ใช่ลักษณะของชาวพุทธที่ดีเลย

      ลบ
  2. จะต้องเป็นคนที่รู้จักคิดพิจารณามากเลยนะคะ รวมทั้งต้องศึกษาเกี่ยวกังองค์เทพที่นับถือให้ดีๆ มากด้วย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่ค่ะ ปัญหาคือคนบูชาเทพส่วนใหญ่ ไม่รู้จักคิด และไม่ค่อยศึกษาด้วย ส่วนใหญ่เชื่อแต่ดารา หมอดูมั่ว ร่างทรง เค้าว่าอะไรก็ว่าตามกันไป

      ลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น